ม้าลายอาจดูเหมือนกันทั้งหมด แต่ความจริงแล้วมันถูกแบ่งออกเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ม้าลายแบ่งออกเป็น 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ม้าลายเกรวี ม้าลายธรรมดา และม้าลายภูเขา แต่ละสายพันธุ์มีรูปร่างของลายบนตัว รูปร่างของหาง และรูปร่างของหูที่แตกต่างกัน

ม้าลายไม่เคยถูกทำให้เชื่องเหมือนม้าหรือลาที่ถูกทำให้เชื่องโดยมนุษย์ เหตุผลที่ม้าลายไม่ได้ถูกทำให้เชื่องนั้น เป็นเพราะว่าม้าลายมีความกลัวมนุษย์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากมนุษย์ได้ล่าม้าลายมาตั้งแต่สมัยก่อน จึงทำให้ม้าลายหลบหนีจากมนุษย์

ในความเป็นจริงแล้ว ม้าลาย 'ควากกา' ซึ่งสูญพันธุ์จากการล่าของมนุษย์ในช่วงทศวรรษที่ 1870 นั้น มีรูปร่างที่แปลกตา โดยมีลายครึ่งตัว เนื่องจากรูปร่างที่แปลกตา ทำให้ชาวดัตช์ที่อพยพไปยังแอฟริกาใต้ล่าควากกาอย่างไม่เลือกหน้า จนในที่สุดก็สูญพันธุ์ไปอย่างสิ้นเชิง ปัจจุบันในแอฟริกามีโครงการฟื้นฟูควากกาชื่อ 'โครงการควากกา' กำลังดำเนินการ โดยใช้ยีนที่คล้ายกันเพื่อค้นหาการกลายพันธุ์

ม้าลายได้ผ่านการสูญพันธุ์ไปแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงควรใช้กรณีของควากกาเป็นบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้ม้าลาย สูญพันธุ์ไปอีก อย่างไรก็ตาม ยังมีม้าลายที่ใกล้สูญพันธุ์อยู่ ม้าลายเกรวีอาศัยอยู่ในบางพื้นที่ของเคนยาและเอธิโอเปีย ปัจจุบันมีจำนวนทั้งหมดไม่ถึง 2,000 ตัว ม้าลายเกรวีถูกจัดอยู่ในประเภทสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (EN) โดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หากไม่มีความพยายามหรือความสนใจในการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง ม้าลายเกรวีอาจสูญพันธุ์ไปอย่างรวดเร็ว

ม้าลายเกรวีเป็นม้าลายที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาม้าลาย 3 สายพันธุ์ มันใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากการล่าอย่างไม่เลือกหน้า เพื่อเอาเนื้อและขนสัตว์ องค์กร African Wildlife Foundation (AFC) ได้ร่วมมือกับ Kenya Wildlife Service เพื่อติดปลอกคอ GPS ให้กับม้าลายเกรวีเพื่อติดตามตำแหน่ง ข้อมูลนี้ช่วยในการตรวจสอบและวิจัยรูปแบบการเคลื่อนไหว และวิถีชีวิตของม้าลายเกรวี ซึ่งจะช่วยให้ม้าลายเกรวีสามารถหลุดพ้นจากการใกล้สูญพันธุ์

หวังว่ากิจกรรมการอนุรักษ์เหล่านี้จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นควากกาอีก