หัวข้อ
- #มังสวิรัติ
- #วีแกน
- #วิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศ
- #พฤติกรรมการกิน
- #สิ่งแวดล้อม
สร้าง: 2024-02-07
สร้าง: 2024-02-07 15:43
ตอนนี้ คำว่าวีแกนไม่ใช่คำที่แปลกใหม่สำหรับใครอีกต่อไปแล้ว ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะคะ เราเริ่มเห็นผู้คนหันมาทานมังสวิรัติด้วยเหตุผลต่างๆ มากขึ้นรอบตัว และบนโทรทัศน์ก็มีคนออกมาเปิดเผยตัวตนว่าเป็นวีแกนกันมากขึ้นเรื่อยๆ
pixabay
แต่ก่อน เราอาจจะเรียกแค่คนที่ไม่ทานเนื้อว่าเป็นมังสวิรัติ แต่ตอนนี้หลายคนก็รู้แล้วว่าจริงๆ แล้วมังสวิรัติมีหลายแบบค่ะ เช่น เพสโค เวเจเทเรียน (Pesco Vegetarian) ที่ทานแค่เนื้อสัตว์ประเภทปลา หรือโอโว เวเจเทเรียน (Ovo Vegetarian) ที่ทานทั้งปลาและผลิตภัณฑ์จากนม นอกจากนี้ ยังมีวีแกน ที่เราพูดถึงกันบ่อยๆ ซึ่งหมายถึงคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนมเลยค่ะ
ทุกคนรู้ว่าการทานมังสวิรัติดีต่อสุขภาพใช่ไหมคะ การทานมังสวิรัติช่วยป้องกันโรคต่างๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายหากทานเนื้อสัตว์บ่อยๆ เช่น โรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับผู้ใหญ่ และยังช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีให้กับร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ การทานมังสวิรัติยังช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยปกป้องร่างกายจากโรคร้ายแรงอย่างความดันโลหิตสูง หรือโรคหลอดเลือดสมอง
https://www.statista.com/chart/28251/global-meat-production/
มนุษย์เรากินเนื้อสัตว์กันมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์ทั่วโลกในปี 1960 อยู่ที่ 71 ล้านตัน แต่ในปี 2023 เพิ่มขึ้นเป็น 364 ล้านตันแล้ว แน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นของประชากรก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น แต่การที่อาหารแบบตะวันตกที่เน้นเนื้อสัตว์เป็นหลักแพร่หลายไปทั่วโลกก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัญหาคือการกินเนื้อสัตว์ไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
pixabay
น่าตกใจที่ว่า ก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนถึง 1 ใน 3 เกิดจากการผลิตอาหารค่ะ และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือเนื้อวัวและเนื้อแกะคิดเป็นครึ่งหนึ่งของปริมาณก๊าซที่ปล่อยออกมาจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ การกินเนื้อสัตว์นั้นต้องผ่านกระบวนการแปรรูปต่างๆ ทำให้เกิดคาร์บอนจำนวนมาก ซึ่งแตกต่างจากการทานมังสวิรัติที่ทานอาหารตามธรรมชาติ
ในสถานการณ์แบบนี้ การทานมังสวิรัติจึงมีความจำเป็นมากขึ้น การศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดพบว่า การทานมังสวิรัติสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยก๊าซคาร์บอน และมลพิษทางน้ำ ได้ถึง 75% เมื่อเทียบกับการทานอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นหลัก นอกจากนี้ ยังช่วยลดการใช้น้ำลงครึ่งหนึ่ง และช่วยป้องกันการทำลายความหลากหลายทางชีวภาพอีกด้วย นั่นหมายความว่าการทานมังสวิรัติไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ อีกด้วยค่ะ
pixabay
ในช่วงที่วิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศกลายเป็นปัญหาของคนทั่วโลก ผู้คนจำนวนมากขึ้นก็เริ่มลงมือทำเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศนี้ บางคนยอมลดความสะดวกสบายของตัวเองเพื่อลดการใช้พลาสติกเพื่อปกป้องโลก แต่โดยทั่วไปแล้ว การทำสิ่งที่ดีต่อโลกมักจะมาพร้อมกับความไม่สะดวกสักหน่อย แต่การทานมังสวิรัติกลับไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ เพราะนอกจากจะดีต่อโลกแล้ว ยังดีต่อสุขภาพของเราด้วย ปัญหาเดียวที่อาจจะมีก็คือ ความเข้าใจผิดที่ว่าอาหารมังสวิรัติไม่อร่อย แต่ตอนนี้ ด้วยเทรนด์วีแกนที่กำลังมาแรงและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ทำให้เราสามารถปรุงอาหารจากพืชให้มีรสชาติเหมือนเนื้อสัตว์ได้แล้ว
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทานมังสวิรัติได้ทุกมื้อ เพราะเนื้อสัตว์ก็มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของมนุษย์เช่นกัน ดังนั้น เราจึงไม่สามารถห้ามไม่ให้คนกินเนื้อสัตว์ได้ และคนที่เคยชินกับการทานเนื้อสัตว์ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนมาเป็นวีแกนได้ในทันทีในมื้อถัดไป แต่ถ้าเราลองทานมังสวิรัติสักมื้อต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับโลกใบนี้ได้ การทานมังสวิรัติไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่หรือซับซ้อนอะไรเลยค่ะ เป็นเพียงวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้เพื่อปกป้องโลกใบนี้
ความคิดเห็น0