![translation](https://cdn.durumis.com/common/trans.png)
นี่คือโพสต์ที่แปลด้วย AI
เลือกภาษา
สรุปโดย AI ของ durumis
- นกโดโดเป็นนกที่บินไม่ได้ 멸종 หลังจากที่มนุษย์พบเห็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 16 นกโดโดสูญพันธุ์ในปี 1681 เนื่องจากการล่าสัตว์และการนำสัตว์ต่างถิ่นเข้ามา
- ในปัจจุบันมีโครงการฟื้นฟูสัตว์ชนิดนี้ แต่มีการหยิบยกประเด็นทางจริยธรรมและปัญหาในการปฏิบัติจริง เกี่ยวกับการฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์
- โครงการฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์ เช่น นกโดโด นอกจากจะมีโอกาสประสบความสำเร็จแล้ว ยังก่อให้เกิดประเด็นที่หลากหลาย และในเดือนพฤษภาคมปี 2024 ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่การฟื้นฟูสัตว์ชนิดนี้
‘นกโดโด’ รู้จักกันหรือไม่?
Colossal Laboratories & Biosciences
เมื่อราว 350 ปีที่แล้ว มีนกชนิดหนึ่งที่บินไม่ได้ ชื่อว่านกโดโด ตั้งชื่อตามคำว่า “dodo” ในภาษาโปรตุเกส ซึ่งหมายถึง “คนโง่” นกชนิดนี้มีน้ำหนักประมาณ 23 กิโลกรัม และอาศัยอยู่บนเกาะมอริเชียส เกาะเล็ก ๆ ใกล้กับเกาะมาดากัสการ์ในแอฟริกา เนื่องจากนกชนิดนี้อาศัยอยู่บนเกาะเท่านั้น ทำให้มัน ไม่จำเป็นต้องบิน แม้ว่าจะมีปีกก็ตาม การที่ไม่ได้บินมานานทำให้ปีกของมันกลายเป็นเพียง ส่วนตกแต่ง
นกโดโดใช้ชีวิตอย่างสงบสุขบนเกาะมอริเชียส จนกระทั่งพบกับมนุษย์เป็นครั้งแรก ในปี 1505 ในศตวรรษที่ 16 เมื่อยุโรปเข้าสู่ยุคการสำรวจทางทะเล ชาวโปรตุเกส ได้เดินทางไปยังแอฟริกาและไปเยือนเกาะมอริเชียสซึ่งนกโดโดอาศัยอยู่ มนุษย์ เริ่มให้ความสนใจกับนกโดโดที่มีปีกที่คล้ายแขนมากกว่าปีกและไม่สามารถบินได้ ในที่สุดความสนใจของมนุษย์ก็กลายเป็นการล่า
นกโดโดที่มีลำตัวอ้วนกลมกลายเป็นอาหารชั้นดีสำหรับลูกเรือที่หิวโหย และนกโดโด ก็ถูกมนุษย์ล่า นอกจากนี้ชาวดัตช์ยังเริ่มใช้เกาะมอริเชียสเป็นคุกและนำสิ่งมีชีวิต ต่างถิ่นเข้ามา สัตว์ต่างถิ่น เช่น หนู แพะ และลิงได้โจมตีนกโดโดและแย่งรัง จากการนำสิ่งมีชีวิตต่างถิ่นเข้ามาและการล่าสัตว์อย่างไม่ลืมหูลืมตาของมนุษย์ ทำให้ นกโดโดสูญพันธุ์อย่างสมบูรณ์ในปี 1681 เพียง 100 ปีหลังจากพบกับมนุษย์
Wikipedia, By BazzaDaRambler - Oxford University Museum of Natural History ... dodo - dead apparently.Uploaded by FunkMonk, CC BY 2.0, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=20054563
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวว่ามีโครงการฟื้นฟูสัตว์นกโดโด ในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานตาครูซ และโคลอสซอล ไบโอไซเอนซ์ได้ประกาศว่า จะใช้ดีเอ็นเอที่สกัดจากซากของนกโดโดในพิพิธภัณฑ์เพื่อดำเนินโครงการฟื้นฟู สัตว์นกโดโด หากสามารถฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อราว 4 ศตวรรษที่ผ่านมา โอกาสที่จะฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วอื่นๆ ก็จะเพิ่มขึ้น แต่บางคนยังคงสงสัย เกี่ยวกับการฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์ พวกเขาบอกว่าแม้ว่าจะฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าสัตว์ที่ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่จะเหมือนกับนกโดโดในอดีตอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางจริยธรรมและปัญหาในทางปฏิบัติ ที่อาจเกิดขึ้นจากการฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์ บางคนบอกว่าการฟื้นฟูสัตว์ที่ สูญพันธุ์ไปด้วยน้ำมือของมนุษย์ด้วยน้ำมือของมนุษย์นั้นถูกต้อง ในขณะที่บางคน เรียกร้องให้มนุษย์ทุ่มเทความพยายามมากขึ้นในการอนุรักษ์สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ แทนที่จะฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว
สตาร์บัคส์เกาหลี
สตาร์บัคส์เกาหลี
เมื่อไม่นานมานี้ สตาร์บัคส์เกาหลีได้เปิดตัวสินค้า MD ที่มีรูปนกโดโด ซึ่งเป็นผลงานร่วมกันระหว่างสตาร์บัคส์เกาหลีกับศิลปินกิม ซอนอู ผู้วาดภาพ นกโดโด การออกแบบ MD ที่ใช้การปักด้ายสีสันสดใสเพื่อแสดงภาพนกโดโดในช่วง ฤดูหนาวอันหนาวเหน็บนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผสมผสานความรู้สึกแบบเกาหลี กับความงามของนกโดโดเข้าด้วยกัน
By Roelant Savery - Crocker Art Museum, Public Domain, https://commons.wikimedia.org/w/index.php?curid=16547735
นอกจากนกโดโดแล้ว โครงการฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์อื่นๆ ก็ดำเนินต่อไปเช่นกัน และทุกคนต่างให้ความสนใจว่าโครงการฟื้นฟูสัตว์ที่สูญพันธุ์นี้จะประสบความสำเร็จ หรือไม่